ฟิคนี้ "ซาดิส" นะคะ
คำเตือน
-รับความรุนแรงไม่ได้ ห้ามอ่าน
-ไม่เปิดรับรสนิยมผู้อื่น ห้ามอ่าน
ไร้ NC ค่ะ
เป็นฟิคที่เคยแต่งเมื่อนานมาแล้วววววววววว.......ไม่รู้นานเท่าไหร่5555
ขอแนะนำตัวละครใหม่ค่ะ
เด็กคนนี้ชื่อ แคลร์ ในเรื่องค่ะ
เอาล่ะ แปะละนะ >[]<
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ คฤหาสแห่งวองโกเล่
เหล่ามาเฟียใส่สูทสีดำสนิทเรียงรายอย่างเป็นระเบียบสวยงาม เพื่อต้อนรับและคุ้มกันบอสแห่งวองโกเล่
"ซาวาดะ สึนะโยชิ" ตามด้วยที่ปรึกษานอกแก๊งหน้าหวานทั้ง 2
ที่เพิ่งกลับมาจากการเจรจากับแฟมมิลลี่ฝ่ายศัตรู ซึ่งไม่เชิงว่าเป็นการเจรจา
เพราะฝ่ายนั้นได้แอบซุ่มโจมตีเขาทั้ง 3
ถึงสึนะจะกลับมาในสภาพมีบาดแผลเพียงเล็กน้อย แต่ บาจิล และ
แคลร์กลับมีบาดแผลและเลือดอาบแทบทั้งตัว
"บาจิล
รีบไปที่โรงพยาบาลก่อนได้เลยแล้วฉันจะตามไป"
เสียงหวานทุ้มของเด็กหนุ่มผมสีดำสนิทเอ่ยขึ้น
เดินตรงไปยังที่พักผู้พิทักษ์สายหมอกของวองโกเล่
"แคลร์
จะไปไหนเหรอขอรับ?"
มือเล็กของหนุ่มน้อยหน้าหวานดึงปลายแขนเสื้อของเจ้าของเสียงหวานทุ้มที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเขา
และเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"ฉันมีธุระกับมุคุโร่"
แคลร์ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแล้วเดินจากไป
"ไม่น่าเชื่อนะครับ
มาเฟียระดับปลายแถวแค่นั้นจะทำให้คุณบาดเจ็บได้" เสียงทุ้มต่ำของมุคุโร่
ได้เอ่ยถามเด็กหนุ่มหน้าสวยที่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา
"ฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยสบาย..."เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ
คนที่รู้ฝีมือของฉันดีที่สุดในที่นี้ คือนาย มุคุโร่
การที่นายจะพูดขึ้นมาแบบนั้นก็ไม่แปลก
"ร่างกาย...เป็นไงมั่งครับ"มุคุโร่เอ่ยถามเด็กหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง
"พลังภาพมายาอ่อนลง...รู้สึกว่าฉันจะเริ่มไม่ไหวแล้ว
ช่วยฉันได้ไหม?"
แคลร์เอ่ยปากขอร้องมุคุโร่ เพราะคนที่จะช่วยได้คงมีแค่เขาคนเดียว...
"ได้สิครับ...เอ๊ะ
!!!...."ทันทีที่มุคุโร่เอ่ยปากตอบรับ
ร่างของเด็กหนุ่มก็ทรุดลงเกิบจะทันที
มุคุโร่รีบประคองร่างของเด็กหนุ่มไว้ก่อนจะถึงพื้น พลันเห็นสีหน้าที่เดิมทีก็ซีดจนไม่หน้าเชื่อ
ก็ซีดลงกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
มุคุโร่รีบอุ้มร่างที่หมดสตินั้นขึ้นรถแล้วตรงไปยังโรงพยาบาล
พร้อมๆกับใช้พลังมายมของเขา...ช่วยเหลือ...ร่างที่เริ่มจางไปทีละนิดๆของเด็กหนุ่ม
[โรงพยาบาล]
"บาจิลเป็นไงมั่ง...?"อิเอมิสึถามถึงอาการของลูกศิษย์หน้าหวานที่ต้องนอนให้เลือดอยู่บนเตียง
"ดีขึ้นมากแล้วขอรับ
คุณท่าน"หนุ่มน้อยหน้าหวานตอบผู้เป็นนายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส
"หายไวๆนะ
ฉันต้องไปเคลียร์งานแล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ"อิเอมิสึพูดแล้วเดินออกจากห้อง
ทันใดนั้นปรากฏร่างสูงผมสีดำสนิทสีหน้าสงบนิ่งเดินสวนอิเอมิสึเข้ามาในห้อง
คนคนนั้นคือผู้พิทักษ์เมฆาแห่งวองโกเล่ ฮิบาริ เคียวยะ
"เอ๊ะ...ท่านฮิบาริ..."บาจิลเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ
เขาไม่เคยเห็นท่านฮิบาริมาเยี่ยมใครมาก่อนถึงแม้จะปางตายก็ตาม
"เป็นอะไรมากไหม"
ร่างสูงไม่แสดงสีหน้าใดๆโต้ตอบ เขานั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงแล้วเอ่ยถามบาจิล
"มะ..ไม่เป็นไรขอรับ"บาจิลยังคงอึ้งอยู่กับการที่ฮิบาริมาเยี่ยมเขาแบบนี้
"ก็ดี"
ฮิบาริตอบแล้วมองไปทั่วร่างกายของบาจิล ที่มีแต่ผ้าพันแผลเต็มไปหมด
"เอ่อ...ท่านฮิบาริทำไมถึงมาเยี่ยมกระผมล่ะขอรับ?"บาจิลตัดสินใจถามเหตุผล จากคนที่ไม่เคยเหลียวแลใครอย่างฮิบาริ
"ฉันก็แค่เป็นห่วง...ได้ยินว่านายบาดเจ็บ"ฮิบาริหลบสายตาบาจิลแล้วพูดออกไปแบบอายนิดๆ
"..........."บาจิลรู้สึกอึ้งกับคำตอบและไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
ไม่หน้าเชื่อว่าท่านฮิบาริจะพูดออกมาแบบนี้
"มาเยี่ยมครับ....เป็นไงบ้าง"เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้น
พร้อมกับประตูที่แง้มออกช้าๆนั่นคือ มุคุโร่ และแคลร์ที่นั่งรถเข็น ตามมาด้วยกัน
"ท่านมุคุโร่ แคลร์" บาจิลยิ้มให้กับทั้ง 2
แต่หากว่าเป็นเพียงยิ้มเล็กๆ
คนที่บาจิลต้องการคือ ท่านซาวาดะ เสียมากกว่า แต่สิ่งที่ทำให้บาจิลดีใจในขณะนั้น
ก็คือแคลร์ที่ยังอุส่าต์มาเยี่ยมทั้งๆที่บาดเจ็บพอๆกัน
"คุณแคลร์บอกว่ายังไงก็จะมาให้ได้น่ะครับ"มุคุโร่พูดพลางส่งยิ้มแก่นๆให้กับร่างเล็กทั้ง2คนที่บาดเจ็บ
"............."แคลร์เบนสายตาหลบหน้าบาจิลนิดๆ
"ขอคุณมากขอรับ
^^ "บาจิลส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนที่มาเยี่ยมเขา
ทันนั้น!!!!
"หลบ
!!!!!!!!! "จู่ๆฮิบาริก็รีบฉุดบาจิลลงมาจากเตียง
หน้าต่างแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
จากกระสุนที่ยิงกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
มีคนพรั่งพรู่ออกมาทั้งทางประตูและหน้าต่าง ราว 20 คนได้ พร้อมอาวุธครบมือ
หนึ่งในนั้นประมาณ 5 คน เป็นระดับหัวหน้าเพราะใส่เครื่องแบบแทนที่จะเป็นสูทธรรมดาฮิบาริและมุคุโร่รีบชักอาวุธคู่ใจออกมาไม่กี่วินาทีก็จัดการพวกปลายแถวได้หมด
เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งห้อง
แขนขาของเหล่าศัตรูถูกฉีกเป็นชิ้นๆกระจัดกระจายเละเทะอย่างหน้าสยดสยอง
เสียงร้องโอดอวนแห่งความตายที่ดังกระหึ่มอยู่เป็นรยะๆ ทั้งเสื้อผ้าและอาวุธของฮิบาริและมุคุโร่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
กลิ่นเลือดที่ตลบอบอวนอยู่ในห้องผู้ป่วยเล็กๆ เต็มไปด้วย...ซากศพ...
เหลือเพียงระดับหัวหน้า 5 คนเท่านั้น
มุคุโร่รีบใช้ภาพมายารีบจัดการศัตรูให้เร็วที่สุด แต่ไม่ได้ผล !!! มีระดับหัวหน้าคนหนึ่งที่มีวิชามายาเช่นกัน
ไม่น่าเชื่อมีคนที่ใช้ภาพมายาเก่งกว่ามุคุโร่เสียอีก !!
ชายร่างสูงคนหนึ่งอาศัยช่วงที่ฮิบาริเผลอใช้ใบมีดคู่ปาดเข้าที่บริเวณช่องท้องของฮิบาริ
"
อั่ก !!! "เลือดกระอั่กออกมากลบปากฮิบาริ ไหลอาบตั้งแต่ริมฝีปากลงมาถึงกางเกง
"ท่านฮิบาริ
!!! "หนุ่มน้อยร่างบางที่นั่งไม่ขยับจนถึงเมื่อครู่
ตะโกนออกมาเพราะความตกใจ !!!
"อ่อก
!!! "ฮิบาริล้มตึงบนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด
"ฮึ่ย
!!"
มุคุโร่รีบวิ่งมาขวางชายร่างสูงคนนั้นไว้ก่อนที่เขาจะสับฮิบาริเป็นชิ้นๆ
ทันใดนั้นชายอีกคนก็พุ่งเข้าทางด้านหลังของมุคุโร่ ใช้กระบองเหล็กฟาดเข้าที่กลางกระดูกสันหลังของมุคุโร่
มุคุโร่เสียหลักล้มลงบนพื้น
"อะ....อ๊ากกกกกกก....!!!! "ชายคนนั้น
ใช้เท้าเหยียบส่วนที่ถูกฟาดอย่างแรงจนกระดูกสันหลังนั้นแตกหัก
เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มุคุโร่ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำอีก
ชายคนนั้นยังคงใช้กระบองเหล็กทุบไปทั่วร่างกายของมุคุโร่ แล้วหยีบซ้ำด้วยความสะใจ
"อ๊อกกกกกกกก!!! แค่กๆๆ....อย่า...อ๊ากกกกกกกกกก!!!!!
"ฮิบาริถูกชายอีกคนใช้ใบมีดทั้ง2ฟากฟันไปทั่วร่างกาย เกิดแผล เหวอะหวะไปทั่ว
หลังจากสร้างบาดแผลจนสะใจแล้ว หยีบลำคอของฮิบาริและเพิ่มแรงหยีบขึ้นเรื่อยๆ
"หยุดซะที
!!!! หยุดนะ!!!
"บาจิลแทบจะคลานไปหยุดชายทั้ง2คนเอาไว้
โหดร้าย...โหดร้ายที่สุด !!! พวกมันไม่ใช่มนุษย์!!!
"บาจิล!!!!"แคลร์รีบกระโดดรวบบาจิลเอาไว้ ชายอีก3คนเดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มทั้ง2
"ออกไปให้พ้น
!!!! "แคลร์พยามประคองบาจิลออกไปจากห้อง แต่แผลที่ได้รับมาจากครั้งก่อนก็ยังสร้างความลำบากให้กับร่างกาย
ขยับแทบไม่ได้!!!
"แคลร์
!!! "ชายคนหนึ่งพยามจิกผมแคลร์ออกมา ให้ห่างจากบาจิล
ขณะชายอีกคนจับข้อมือเล็กๆของบาจิลล่ามไว้กับโซ่
"เจ้าหนู...เห็นเพื่อนพ้องที่ถูกทำร้ายแล้วรู้สึกยังไงบ้าง...สนุกไหมล่ะ....สุดยอดใช่ไหมล่ะ
!!! หึหึหึหึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...!!!
"ชายร่างใหญ่ตรึงบาจิลไว้กับโซ่ได้สำเร็จ
"อ๊าาาาาาาาาาา!!!!!"แคลร์ถูกเหล็กปลายแหลมรนไฟ แทงเข้าจากบ่าจนทะลุไปถึงหลัง
และถูกชากอีกคนหยีบลงบริเวณซี่โครงกระทืบซ้ำแล้วซ้ำอีก
แคลร์กระอั่กเลือดออกมาเรื่อยๆ เหล็กปลายแหลมถูกกระชากออกจากบ่าเล็กๆของแคลร์
ร่างที่สติเลือนรางถูกยกขึ้นแล้วโยนลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง
เลือดไหลอาบไปทั่วทั้งร่างเล็กๆนั้น สติของเด็กหนุ่มหลุดไปในทันที
ที่ถูกฉีกกระชากเนื้อหนังบริเวณช่องท้องอย่าทารุณ
"อย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!"บาจิลไม่สามารถทนเห็นภาพตรงหน้าได้ หากแต่เพียงแขนทั้ง2ข้างที่ถูกพันธนาการและร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลสาหัสทำให้ไม่สามารถช่วยใครได้เลย...........ทำไมกระผมถึงอ่อนแอแบบนี้
กระผมช่วยอะไรใครไม่ได้เลย!!!!!!!!!!!...................
"ได้ดูจนพอแล้วเจ้าหนู....ได้เวลาของแกบ้างแล้ว
!!! " มือใหญ่นั้นได้จับศีรษะของบาจิลแล้วกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง
4-5รอบเห็นจะได้ ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างสูง ผมสีน้ำตาลแดง ไฟดับเครื่องชนสีส้ม
พุ่งเข้ามาในห้องด้วยความโกรธแค้น !!!!
"พวกแก!!! ทำอะไรกับแฟมิลลี่ของฉัน !!!"
ไฟแห่งความโกรธลุกโชติช่วงขึ้น เมื่อเห็นร่างของเพื่อนพ้องที่ปางตายนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
"นั่นมันวองโกเล่รุ่นที่
10 !!!! รีบถอยกันก่อน!!!!"
มือใหญ่นั้นโยนศีรษะของบาจิลลงกระแทกกับพื้นด้วยความเร่งรีบ
ปล่อยให้ร่างไร้สตินอนตาค้างหายใจแผ่วๆอยู่บนพื้นห้อง
สึนะและพักพวกรีบเข้าไปประคองร่างที่แทบจะหยุดหายใจของทั้ง 4 คนออกมาจากห้อง
"ขอบอกไว้ก่อนนะอิเอมิสึ
เจ้าหนูวองโกเล่....ทั้ง 4 คนจะไม่สามารถเป็นมาเฟียได้อีก !!!! "คำเอ่ยเตือนของหมออย่างชามาล ทำให่ทั้ง 2 ต้องสลดไปตามๆกัน
"แต่ชามาล...ช่วยอะไรไม่ได้เลยเหรอ"วองโกเล่หนุ่มพูดด้วยความกังวล
เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของหมอ
"นี่จะบอกไว้ก่อนนะที่ฉันรักษาให้นี่ก็บุญแล้ว
ปกติฉันไม่รักษาผู้ชายก็แค่ 2 คนในนั้นหน้าตาคล้ายผู้หญิงเท่านั้นแหละ"
".........."วองโกเล่หนุ่มเงียบไป
ไอ้หมอลามกฉันว่าแล้วมันแปลกที่ยอมมารักษาผู้ชาย...แกคิดไม่ซื่อกับลูกน้องฉันใช่ไหม
!!!
"ช่วยไม่ได้นะสึนะ
ปลดพวกเขาออกจากการเป็นมาเฟียเถอะ"อิเอมิสึพูดกับลูกชายด้วยรอยยิ้มบางๆ
"ไม่ใช่แค่นั้นอิเอมิสึ...แค่ชีวิตอย่างคนปกติยังเป็นไปไม่ได้เลย..."คำพูดของชามาลทำให้ทั้ง
2 ต้องตกใจ
"หมายความว่าไง ??" ทั้ง 2 คนเอ่ยถาม
" 1
คนพิการตั้งแต่ท่อนล่างลงไป 1 คนไม่สามารถขยับทั้งร่างกาย
ถึงจะมีโอกาสหายถ้าทำกายภาพบำบัดแต่แน่นอน ไม่ต่ำกว่า 10 ปีจะเป็นเหมือนเดิม 1
คนเป็นเจ้าชายนิทราไปชั่วชีวิต อีก 1 คน
สูญเสียความทรงจำและบาดแผลทางใจที่ยากเกินจะเยียวยา"
"............"ทั้ง
2 คนอึ้งกับสิ่งที่แฟมิลลี่ของพวกเขาได้รับ
"ฉันว่าพวกนายไปดูด้วยตาตัวเองดีกว่า...ฉันมีเรื่องจะพูดแค่นี้แหละ"
อิเอมิสึและสึนะเดินไปที่ห้องของผู้พิทักษ์สายหมอกเป็นคนแรก
ห้องสีเทาอ่อนจนเกิบขาวสว่าง เปิดหน้าต่างและม่านให้ห้องสว่าง
สภาพของหนุ่มร่างสูงนั่งอยู่บนเตียงพยาบาล ดูเหมือนแทบจะไม่เป็นอะไร
นั่งยิ้มให้กับผู้ที่มาเยี่ยมทั้ง 2 คน
"มุคุโร่...เป็นไงมั่ง"
บอสแห่งวองโกเล่เริ่มไถ่ถามอาการของผู้พิทักษ์ตรงหน้า พลันยิ้มบางๆเมื่อครู่ก็หายไป
มุคุโร่ก้มมองที่ขาทั้ง 2 ข้างของตน
"ขาของผม...ไม่รู้สึก...ไม่ขยับ...หึ"
ยิ้มบางๆปรากฏให้เห็นอีกครั้งบนใบหน้าที่โศกเศร้าของหนุ่มรูปงาม
"........."
ไม่มีใครกล้าโต้ตอบกับสิ่งที่มุคุโร่พูดออกมา
เพราะรู้สึกถึงความเจ็บอันแสนสาหัสจากชายหนุ่มตรงหน้า
ทั้ง 2
เดินออกมาจากห้องผู้พิทักษ์สายหมอก แล้วดิ่งตรงไปยังห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน ทันทีที่แง้มประตูออก
ทั้ง 2 ก็หยุดดูคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง มีผัาพันแผลพันไปทั่วทั้งร่างกาย
นั่นคือสภาพของผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างฮิบาริงั้นหรือ...
"คะ...คุณฮิบาริ"สึนะเรียกชื่อของคนตรงหน้าด้วยความหวั่นใจ
"ออกไป
!!!! "เสียงตะโกนไล่ของชายหนุ่มร่างสูงดังขึ้น
ร่างกายที่แข็งแกร่งสนุกกับการฆ่าฟัน บัดนี้ ไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อย
ทั้ง 2 คนรีบปิดประตูห้องและออกไปด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
และเดินอย่างเข่าอ่อนไปยังห้องที่มืดสนิทห้องหนึ่ง เห็นแต่เพียงแสงและเสียงที่แทบจะไม่ขยับของกราฟวัดคลื่นหัวใจและสมองเท่านั้น
สายโยงไยมากมายลากยาวไปยังร่างเด็กหนุ่มผมสีดำสนิทที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง
แถมยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเสียอีก ร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล
สงบนิ่งไม่ขยับไม่ต่างจากร่างที่ไร้วิญญาณ
สภาพกึ่งเป็นกึ่งตายเช่นนี้ทำให้น้ำใสอุ่นไหลคลอออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลของชายทั้ง 2
...เด็กหนุ่มที่อยู่มาวันหนึ่งบาจิลก็พามาแนะนำให้เข้าสังกัดที่ปรึกษานอกแก๊ง เขาแทบจะไม่เคยพูดคุยหรือสุงสิงกับใครเลย
บัดนี้ ก็ไม่มีโอกาศที่จะได้พูดกับเขาอีกแล้ว ตลอดไป....
สึนะและอิเอมิสึทนเห็นภาพตรงหน้าแทบไม่ไหว
รีบปลีกตัวออกจากห้อง
ไล่มายังห้องสีฟ้าสบายตาหวังจะพบกับเด็กหนุ่มหน้าหวานที่พวกเขาคุ้นเคย แต่หากภาพที่เห็นนั้น
คือเด็กหนุ่มที่มองออกไปยังหน้าต่างข้างนอก ดวงตาที่เคยทอประกายสีฟ้าสดใส เหลือแต่เพียงความหม่นหมองและภายในเห็นแต่ม่านตาที่ดูเหมือนขยายอยู่ตลอดเวลา
เรียกก็ไม่ได้ยิน สัมผัสก็ไม่รู้สึกตัว ไม่พูด ไม่ตอบสนองกับสิ่งใดๆเลย
สึนะถึงกับทรุดลงข้างเตียง
"บาจิลคุง
!!! บาจิลคุง !!! บาจิลคุง !!!!
ตอบฉันทีสิ !!!!!!!!! " น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของบอสแห่งวองโกเล่อย่างไม่ขาดสาย
ไม่มีอาการโต้ตอบใดๆของเจ้าของชื่อที่เขาเรียก ไม่แม้แต่ขยับ
สึนะลุกขึ้นและเขย่าร่างที่นิ่งเงียบตรงหน้า
"บาจิลคุง
!!!! นี่ฉันไง สึนะ !!! ท่านซาวาดะไงล่ะ !!! พูดกับฉันทีสิ !!! ได้โปรด !!!! " สึนะลดศีรษะลงมาจรดแผ่นอกของร่างบางตรงหน้า
เสียงสะอึกสะอื้นของสึนะยังคงกึกก้องอยู่ไม่ขาดสาย
ไม่มีสิ่งใดที่ส่งไปถึงคนตรงหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย อิเอมิสึจับสึนะแยกออกจากบาจิล
ในตอนนี้คนที่บาจิลเคยหลงใหลและรักมาตลอดก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
ผ่านไปหลายเดือน...สภาพร่างกายของทั้ง 4
ก็แทบไม่ต่างจากเดิม ฮิบาริตอนนี้เริ่มทำกายภาพบำบัดแล้ว
โดยมีมุคุโร่นั่งมองด้วยความอิจฉาอยู่ห่างๆ
เพราะอย่างน้อยฮิบาริสักวันก็จะสามารถเป็นเหมือนปกติได้ ถึงจะไม่ 100%
ก็ตามที แต่ตัวมุคุโร่นั้น ไม่มีวันเดินได้อีกแล้ว
แคลร์เองก็ยังคงนอนนิ่งอยู่เช่นเดิม
ส่วนบาจิลก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือดีขึ้นแม้แต่น้อย
แต่สึนะจะปลีกเวลามาหาบาจิลทุกวัน มาเล่าเรื่องงานบ้าง เอาของมาฝากบ้าง
แต่ก็ไม่มีผลใดๆเลย
"บาจิลคุง...วันนี้ฉันเอาแอ๊บเปิ้ลมานะ...เรามาทานด้วยกันนะ"
สึนะค่อยๆปลอกเปลือแอ๊บเปิ้ลช้าๆ แต่ก็พลาดมาโดนนิ้วจนได้
"อูย...เจ็บ
ฉันนี่ซุ่มซ่ามจังว่าไหมบาจิลคุง..." ทันใดนั้นร่างที่ไม่เคยตอบสนอง
ก็หันควับมามองสึนะ
"เอ๊ะ
!!! บาจิลคุง !!!" สึนะร้องด้วยความดีใจ
แต่สีหน้าของบาจิลกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สิ่งที่บาจิลมองคือ...เลือด...ที่ไหลอาบปลายนิ้งของสึนะ
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา!!! "เสียงกรีดร้องของบาจิลดังขึ้น สึนะตกใจและทำอะไรไม่ถูก
บาจิลพยามถอยห่างจากสึนะ จนตกลงจากเตียง สึนะรีบเข้าไปดู
"อย่าเข้ามา
!!!! อย๊าาาาา !!!!!!!!
"บาจิลเหมือนจะกลัวเลือดของสึนะ และพยามถอยห่าง เพราะสิ่งเดียวที่เขาจำได้
คือ ภาพของเพื่อนพ้องที่ถูกที่ถูกร้าย สีและกลิ่นของเลือด
ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วห้องเท่านั้น
สึนะรีบเช็ดเลือดออกและเข้าไปโอบกอดบาจิลเอาไว้
"ไม่เป็นไรแล้ว
!!! บาจิลคุง !!! ฉันอยู่ตรงนี้ !!! ฉันมาช่วยนายแล้ว !!!!"สึนะพยามพูดปลอบบาจิล
ทั้งหมอและพยาบาลวิ่งเข้ามาดู แต่เหตุการณ์ก็สงบลงด้วยดี
บาจิลหลับไปนานเลยทีเดียว....
เช้าวันต่อมา
สึนะก็เข้ามาเยี่ยมบาจิล แต่กลับพบเห็นสิ่งที่ร้ายแรงกว่าเดิม
บาจิลลุกขึ้นนั่งก้มหน้ากอดเข่าอยู่บนเตียง ร่างกายสั่นเทา
หน้าตาที่ซีดเซียวลงอย่างไม่น่าเชื่อ พูดคำเดิมซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอด "
หยุดซะที...อย่าทำร้ายเพื่อนของผม..." สึนะไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปในห้อง
เขารู้สึกผิดที่ทำให้บาจิลเป็นแบบนี้
"ฉันขอโทษ....บาจิลคุง..."สึนะทรุดลงตรงหน้าห้อง
และร้องไห้อยู่แบบนั้นจนเที่ยง
ขณะนั้นพวกผู้อาวุธโสของวองโกเล่ก็กำลังประชุมเรื่องฝ่ายศัตรูที่จู่ๆก็เงียบหายไปอย่างไม่รู้สาเหตุ
และสั่งเพิ่มกำลังการป้องกัน เพราะอาจมีการบุกแบบ กองโจรเหมือนครั้งก่อนๆก็เป็นได้
...และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในคืนนั้นศูนย์ใหญ่ของวองโกเล่ถูกโจมตี ตามด้วยสาขาย่อยต่างๆ
รวมถึงโรงพยาบาลของวองโกเล่ด้วย " ทุกคนตายหมด "
ณ ห้องของบาจิล
"หึหึหึ
ไอ้เด็กเปราะบางแบบนี้น่ะเหรอ เป็นพวกวองโกเล่ น่าสมเพช !!! จะค่อยทรมานหรือฆ่ามันให้ตายไปเลยทีเดียวล่ะ !!!
"ชายร่างสูงหน้าคม กำลังเคลื่อนกายไปใกล้เด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่ในห้อง ใช้มือเปล่าบีบคอเล็กๆนั่น
"อ่ะ...แค่กๆ
แค่กๆ" ร่างเล็กเพียงแต่หายใจแผ่วๆ โดยไม่ดิ้นรนเลย
เกิดปาฏิหารบางอย่างขึ้น
ร่างกายที่นิทราอย่าสงบนิ่งอยู่บนเตียงเริ่มขยับขึ้น
ด้วยคำบางคำที่ก้องกังวาลอยู่ในหัว "ฉันจะปกป้องเธอตลอดไป " เป็นคำที่พูดออกมาในวันแรกที่เขาได้พบเด็กชายร่างไร้เรี่ยวแรงนอนอาบเลือดอยู่ท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมจนเป็นสีขาวโพลนไปทั่ว
ร่างอันบอบบางที่หายใจอย่างช้าๆราวกับจะสิ้นลม ผมสีทรายอ่อนที่เปื้อนเลือดไปจนจรดปลายเท้า
แสดงถึงร่างกายที่ถูกฉีกกระชากหัวใจออกมา แต่กลับไม่ตาย เมื่อนั้น
วิญญาณที่ไร้ร่างอย่างเขาจึงรำพันคำสัญญานั้นออกมา ปกป้อง ทำได้เพียงปกป้อง
ไม่อาจเป็นสิ่งอื่นใดได้อีกตลอดไป...ร่างนิทรานั้นจึงตื่นขึ้น เพื่อทำตามสัญญานั้น
"อย่ามาแตะต้องบาจิล
!!! " พลันเสียงหวานทุ้มที่หวนกลับมาใช้ภาพมายาที่กลายเป็นของจริงฟาดฟันกับเหล่าศัตรูที่จะเข้ามาทำร้าย
ผู้ที่เขาต้องปกป้อง ร่างกายของเขาเริ่มเจือจางลงเรื่อยๆ
ราวกับสิ่งที่ใช้ไปนั้นเป็นพลังเฮือกสุดท้ายที่เขาใช้สร้างร่างกายของตนเองขึ้นมา
ดวงตาที่ไม่แสดงถึงสิ่งใดเริ่มปรากฏแววตาที่กลับมาส่องประกายสีฟ้าดังเดิม
ภาพแห่งความทรงจำเริ่มกลับมาทีละน้อย
"
แคลร์ !!!!!!!!!!!!! " น้ำตาแห่งความโหยหาได้ถูกปลดปล่อย เมื่อเห็นคนตรงหน้าที่กำจัดเหล่าศัตรูจนหมดสิ้น
ทรุดลงนอนไปกับกองเลือดและซากศพ บางทีแล้วคนที่บาจิลรักจริงๆ อาจจะ ไม่ใช่ ซาวาดะ
สึนะโยชิ แต่เป็น แคลร์ ก็เป็นได้ ร่างที่เริ่มเลือนราง พยามใช้แรงเฮือกสุดท้ายดันตัวเองไปให้ถึงบาจิล
"
บาจิล....ฉัน..........." คำพูดที่แผ่วเบาจนได้ยินไม่ชัดเจน
บอกบางสิ่งบางอย่าง
"
คะ....แคลร์ อะไร....."ร่างทั้ง 2 เข้ารวบกอดซึ่งกันและกัน
แต่ก่อนที่จะได้ยินคำพูดที่ชัดเจนของแคลร์นั้น.......... ร่างกายของเด็กหนุ่มผมสีดำสนิทกลับกลายเป็นแสงไฟเล็กๆและค่อยๆสลายไป
"
แคลร์ !!!!!!! " ร่างกายของแคลร์สลายหายไปจนหมด
เห็นเพียงแสงไฟสีฟ้าที่ส่องสว่างอยู่ตรงหน้าบาจิล เด็กหนุ่มที่หน้าคล้ายกับบาจิลอีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
เป็นเด็กหนุ่มผมสีขาวสว่างสดใส ยิ้มอย่างอ่อนโยน และรับแสงไฟสีฟ้านั้นไป
"
สักวันพวกเราคงจะไดัพบกันอีกครั้ง แคลร์ บาจิล และตัวฉันก็เช่นกัน...."
เสียงใสที่เปล่งคำพูดนั้นออกมาก็พลันหายลับไป
เหลือเพียงบาจิลที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นและ
..............ต้องอยู่คนเดียว.................ไม่หลืออะไรอีกแล้ว
ทุกอย่างว่างเปล่า และเป็นสีขาวโพลน เหมือน " วันนั้น "
กลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่แสนเจ็บปวด อีกครั้ง
จบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น